334” หรือมักจะเรียกย่อๆกันว่า TG334 (แหม่! FitEar EST is a hybrid type earphone consisting of a balanced armature type driver and an electrostatic tweeter unit. Using Reddit. นึกว่ารหัสเครื่องบิน ฮ่าๆ) ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องคุณภาพเสียงมาตลอด เพราะว่ามีคาแรคเตอร์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นหูฟังมอนิเตอร์ที่ไม่ขี้ฟ้อง ฟังเพลงเพราะแต่ได้รายละเอียดดี ยิ่งใครเน้นฟังเพลงป๊อปหรือเพลงที่เน้นเสียงร้องเป็นหลักรับรองว่าหลงรักแน่นอนล่าสุดทาง FitEar ก็ได้เข็นหูฟัง Universal รุ่นใหม่ออกมาแล้ว และจากการทดลองฟังเสียงไปก็คาดว่าหูฟังรุ่นนี้น่าจะสร้างชื่อให้กับ FitEar ได้เช่นเคย โดยหูฟังตัวใหม่นี้ก็มีชื่อรุ่นว่า EST Universal โดยย่อมาจาก “Electrostatic Tweeter” ครับตามชื่อรุ่นแบบที่ทุกท่านเห็นนั่นล่ะครับ รุ่นนี้เป็นหูฟังที่ FitEar พัฒนาระบบไดรเวอร์ Electrostatic แบบ Passive ขึ้นมาทำใ้ห้มันไม่จำเป็นต้องใช้แอมป์มาขับเสียงโดยเฉพาะ ฉะนั้นเราจะได้ใช้ไดรเวอร์ Electrostatic กันอย่างสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องพ่วงอุปกรณ์ให้วุ่นวาย สะดวกสบายสำหรับ Mobile User แน่นอนครับขอวกกลับมาอธิบายเกี่ยวกับไดรเวอร์แบบ Electrostatic กันซักเล็กน้อย เผื่อใครที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับไดรเวอร์ประเภทนี้จะได้รู้จักถึงประสิทธิภาพของมันกันนะครับโดยปรกติแล้วไดรเวอร์แบบ Electrostatic จะไม่ค่อยพบเห็นในหูฟังทั่วไปซักเท่าไหร่ ส่วนมากจะไปปรากฎตัวอยู่บนหูฟัง High-End ราคาแพงซะมากกว่า (แต่เจ้า EST Universal นี่ก็ไม่ใช่หูฟังราคาถูกนะครับ ฮ่าๆ) โดยหลักการทำงานของไดรเวอร์ชนิดนี้จะเป็นหลักการเดียวกับเรื่องของไฟฟ้าสถิตย์ครับ อธิบายอย่างง่ายๆ ก็คือส่วน Diaphragm ที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงนั้นจะถูกขนาบไว้ด้วยแผ่นโลหะ (Grid) ทั้งสองด้าน ตัว Diaphragm จะมีการจ่ายประจุบวกเข้าไป ส่วนตัว Gird นั้นก็จะจ่ายประจุลบเข้าไป เมื่อมีกระแสไหลเข้ามาจะทำให้ตัว Diaphragm ตรงกลางถูกผลักด้วยแรงแม่เหล็กให้ขยับตัวและเกิดเป็นเสียงขึ้นมาได้ครับ ใครงงลองดูตามรูปข้างล่างนะจะเห็นได้ว่าไดรเวอร์ประเภทนี้จะยุ่งยากในการผลิตยากกว่าประเภทอื่น ยิ่งมาใส่อยู่ในหูฟังอินเอียร์ก็ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ ไหนจะต้องใช้แอมป์มาช่วยขับอีกไม่งั้นจ่ายกระแสไม่พอแน่นอน จากปัญหาที่เห็นทำให้เราไม่ค่อยพบเจอร์ไดรเวอร์แบบ Electrostatic มากนัก โดยเฉพาะหูฟังอินเอียร์ที่ใช้ไดรเวอร์แบบนี้ก็แทบจะนับนิ้วได้เลย แต่ในทางกลับกันไดรเวอร์ Electrostatic นั้นก็มีจุดเด่นที่แข็งมากหลายประการด้วยกันยกตัวอย่างเช่นการตอบสนองต่อ Frequency Range ทำได้กว้างมาก เรียกว่าทะลุเกินเพดานหูคนเราที่ 20kHz ไปได้อย่างสบายๆ เรื่องความไวต่อไดนามิคก็จัดว่ายอดเยี่ยม สามารถไต่นำ้หนักความดังเบาของเสียงได้เป็นธรรมชาติและสมูธมากๆ และยังมีข้อดีของเรื่องมิติเสียง การถ่ายทอดลักษณะของ Sound Stage ที่ให้รายละเอียดได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองครับจากความสวดยวดที่ว่าไปทำให้ FitEar เลือกที่จะนำเอาไดรเวอร์ Electrostatic มาพัฒนาใช้กับหูฟังรุ่นใหม่โดยทำให้เป็นระบบ Passive แบบไม่จำเป็นต้องใช้ไฟเลี้ยง นั่นหมายความว่ามันไม่จำเป็นต้องใช้แอมป์เฉพาะตัวมาช่วยขับครับ แค่พลังจากสมาร์ทโฟนหรือเพลเยอร์ที่เรามีก็เหลือๆแล้วแต่ EST นั้นก็ไม่ได้ใช้ไดรเวอร์ Electrostatic ทั้งระบบครับ แต่นำมาใช้แค่ในส่วนของทวีตเตอร์เพื่อจัดการกับ High Frequency เท่านั้น ส่วนย่าน Mid และ Bass นั้นเลือกใช้บริการของไดรเวอร์แบบ BA แทน อาจจะเห็นว่าไดรเวอร์ไม่ได้เยอะเหมือนรุ่น TG334 แต่ก็สามารถให้คาแรคเตอร์เสียงที่ดีและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองมากอีกรุ่นนึงครับEST Universal มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครันเช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆก่อนหน้าครับ ไม่ว่าจะเป็น Hard Case อย่างดี ชุดจุกยางไซส์ต่างๆ ที่ทำความสะอาดหูฟัง รวมไปถึงคลิบสำหรับหนีบสายเข้ากับเสื้อก็ยังมีให้ ถือว่าครบถ้วนตามมาตราฐานหูฟังทั่วไปครับนอกจากนั้นก็คงเป็นเรื่องคุณภาพงานของตัวหูฟัง ซึ่งถ้าใครเคยได้ผ่านมือผ่านหูกับ FitEar เค้ามาบ้างน่าจะพอทราบว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวนั้นเนี๊ยบมากๆ ตามสไตล์งานคัสตอมของญี่ปุ่นที่ไม่ยอมปล่อยให้มีข้อผิดพลาดกันง่ายๆ ไม่งั้นอาจจะถึงขั้นคนทำฮาราคีรีตัวเองได้เลย ฮ่าๆ สำหรับรุ่น Universal แบบ EST ก็ได้คุณภาพเช่นเดียวกับตัว Custom ครับ ใครซื้อไปใช้หายห่วงได้เลย ที่สำคัญซื้อผ่านตัวแทนที่ JABEN หมดห่วงเรื่องประกัน ถ้าพยายามไปหิ้วกันมาเองมีปัญหาอะไรขึ้นมามีเหงื่อตกนะครับขอบอกคุณภาพสินค้านั้นดีแบบไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว ฉะนั้นเราข้ามไปว่ากันที่เรื่องเสียงเลยดีกว่าครับ สำหรับ EST Universal นั้นยังคงเป็นหูฟังที่ให้สุ้มเสียงสไตล์ FitEar คือเป็น in-ear monitor ที่ไม่ขี้ฟ้องจนเกินไป ให้ความกลมกล่อมในการฟังเพลงสูง คุณสามารถเพลิดเพลินกับเพลงได้หลายสไตล์ โดยเฉพาะกับเพลงที่เน้นเสียงร้องเป็นหลักคาแรคเตอร์ที่สำคัญของ EST ก็คือมันเป็นหูฟังที่ให้เนื้อเสียงที่อิ่มมาก เราจะรู้สึกถึงมวลเสียงได้อย่างชัดเจน ใครที่เบื่อหูฟังประเภทคมชัดบางๆไม่มีเนื้อมีหนัง รับรองว่า EST ตอบโจทย์ท่าน 100% โดยเฉพาะย่านกลางที่ให้ความรู้สึกดีมาก มันอิ่มและมีนำ้หนักจริงๆ เสียงร้องนั้นหายห่วงชัดเจนไม่มีคำว่าบาง ยิ่งพวกเสียงกีตาร์ดิสทอร์ชั่นนะคุณจะรู้สึกได้เลยว่ามันมีพลังมากและมีรายละเอียดของเนื้อเสียงที่ซ่อนอยู่ ประหนึ่งว่าคุณเอาหูไปจ่อหน้าตู้แอมป์กีตาร์ก็ไม่ปาน ฮ่าๆสำหรับย่านเสียงต่ำอาจจะไม่บึ้มบั้มมากนัก แต่ถือเป็นเสียงต่ำที่ได้คุณภาพ ขนาดไม่เล็กมากจัดว่ากำลังฟังสนุก สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี เห็นโน้ตเบสมาเป็นตัวๆเลยล่ะ การมุดลงไปที่ความถี่ต่ำมากๆนั้นทำได้ลึกพอประมาณครับ ยังไม่ถึงกับลงต่ำทะลวงตับอะไรขนาดนั้นส่วนย่านเสียงแหลมสามารถเอาประสิทธภาพของทวีตเตอร์ Electrostatic มาใช้ได้ดีมากๆ ย่านแหลมของ EST นั้นจะมีลักษณะไม่คมมาก และไม่บางด้วย เหมือนจะทอดเสียงไปไม่ไกล แต่เอาเข้าจริงๆมันไปได้ไกลพอตัว แต่ในทางกลับกันมันสามารถให้รายละเอียดของเสียงแหลมได้ดีโดยที่ไม่แหลมจนบาดหู สไตล์ย่านแหลมแบบ EST เราไม่ค่อยพบเจอบ่อยนัก คนทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าเสียงมันนวลๆไม่ค่อยคม แต่เอาเข้าจริงๆเสียงมันไม่ได้ทู่หรือหม่นเลยนะครับ คล้ายๆเสียงแหลมที่ถูก Roll-Off ไปด้วย EQ คุณภาพดีที่เพียงแค่ลดความคม ความแซ่ดของเสียง แต่ยังคงไว้ซึ่งรายละเอียดที่ครบถ้วนอยู่ครับข้ามมาดูที่ Sound Stage กันบ้าง ลักษณะเวทีเสียงของ EST ก็จะไม่กว้างมากนัก เนื่องจากมวลเสียงที่ทรงพลังทำให้รู้สึกว่าเสียงไม่ค่อยโปร่งเท่าที่ควร แต่อย่างที่ว่านั่นล่ะครับ ถึงจะไม่โปร่งแต่พี่เค้าก็สามารถแจกแจงรายละเอียดในทุกๆมิติของเวทีเสียงได้ดีนะ ถือว่าเป็นหูฟังระดับ 3 มิติกลายๆเลยล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นเลเยอร์ด้านความลึกก็แสดงได้ดี มิติของ Stereo image ด้านซ้ายและขวายิ่งไม่ต้องห่วง ไม่กว้างแต่ชัดเจนและแม่นยำ ที่สำคัญมิติด้านแนวตั้งก็ทำได้เยี่ยม เสียงคิกดรัมจะกระแทกกระทั้นอยู่ด้านล่าง ในขณะเดียวกับที่เรารู้สึกว่าเสียงฉาบที่ถูกฟาดอยู่นั้นจะลอยอยู่ด้านบน อันเป็นธรรมชาติของเรื่องความถี่เสียงนั่นเองครับส่วนของไดนามิคนั้นไต่ทุกระดับความดังได้อย่างลื่นไหลสไลเดอร์ดีมากๆครับ เป็นหูฟัง 2 ไดรเวอร์ที่มีความสามารถเกินตัวนะผมว่า สามารถรีดประสิทธิภาพของไดรเวอร์ที่มีอยู่คุ้มค่าจริงๆสรุปได้ว่าโทนโดยรวมของ EST Universal นั้นใครที่เคยผ่านตระกูล FitEar มาบ้างคงพอเข้าใจสรรพคุณ FitEar เค้าไม่ชอบสไตล์เสียงที่บางๆ คมชัดแต่ไม่มีบอดี้ EST นั้นให้ความรู้สึกของสาวสวยที่ดูรูปร่างสันทัดมีน้ำมีนวล เห็นแล้วน่าฟัดน่ากอดประมาณนั้นเลยครับ โทนเสียงให้ความเป็นธรรมชาติสูง เหมาะสำหรับชาว Audiophile ที่ไม่ต้องการหูฟังที่คัลเลอร์มากจนเกินไปนัก ในขณะเดียวก็เหมาะสำหรับคนฟังส่วนใหญ่ด้วยเช่นกัน เนื่องจากสามารถฟังเพลงได้ดีในทุกๆแนวเห็นราคาแล้วอย่างพึ่งคิดว่าไม่คุ้มค่ากับหูฟัง 2 ไดรเวอร์แบบนี้นะครับ ลองมาดูที่เทคโนโลยีของเค้าซะก่อน เพราะไม่ใช่ของง่ายในการผลิตนะ ที่สำคัญไดรเวอร์เพียงแค่ 2 ตัวนี้มันสามารถทำงานกันได้กลมกลืนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมาก แบ่งรับแบ่งสู้กันทำหน้าที่ได้ลงตัว นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องคุณภาพชิ้นงานของ FitEar ที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังอยู่แล้ว สำหรับใครที่ผ่านหูฟังประเภทคมชัดแต่บางกรอบมาเยอะๆอาจต้องปรับตัวกับ EST ซักหน่อย มาลองฟังแล้วดูรายละเอียดที่ได้ดีๆ เชื่อว่าหลายคนจะหลอนกับเจ้า EST Universal เหมือนอย่างที่รุ่นพี่ TG334 เคยทำมาแล้วครับผมไม่พบข้อความวิจารณ์คุณต้องHYLA แบรนด์หูฟังไฮเอนด์เปิดตัวหูฟัง IEM รุ่นใหม่ SARDA หูฟังระบบไฮบริดที่มีการนำไดรเวอร์ 3 ชนิดมาปรุงแต่งเสียง และวิธีการขึ้นรูปบอดี้ใหม่ที่สวยงดงามกว่าเดิมให้ล้ำหรูด้วยสไตล์หูฟัง handcrafted จากประเทศญี่ปุ่นGrado  ชื่อนี้ที่โผล…Sony พลิกตัว กลับมาสร้างความสุขให้กับเสียงเพลงอีกครั้ง ด้วยการจับเอาระบบปฏิบัติการ Android มาใส่ในเครื่องเล่นเพลงซีรี่ส์ NW ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ทั้ง NW-A100 และ NW-ZX500 เครื่องเล่นเพลง ดิจิตอล Digital Audio Player สำหรับเสียงเพลง Hi-Res Audioหูฟังฝีมือคนไทย ที่มาพร้อมความ classic และ ขี้เล่นเหมือนผู้ออกแบบพิมพ์ชื่อสินค้าที่ต้องการและกด ENTER เพื่อค้นหา

生田 斗 真 ヤフー, 湖西線 快速 停車駅, 口下手 女性 特徴, ポストカード テンプレート Ai, 丸善 筑波大学 教科書, 鳥の巣 撤去 業者, 五七の桐 五三の桐 違い, Sunny Jazz Guitar,